top of page
basic_bg.jpg
Search

White Day : ถึงเวลาที่จะตอบรับความรู้สึกของเธอแล้ว 🤍



👋ทักทายชาว Kreative Friends ทุกคนน! กลับมาพบกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้

หลังจากผ่านช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์มาแล้วหนึ่งเดือนเต็ม เพื่อน ๆ ทุกคนพอจะเดากันได้รึเปล่าว่าวันนี้เป็นวันอะไร? วันที่ใครหลาย ๆ คนต้องให้คำตอบสำหรับคำสารภาพรัก~😍 นั่นก็คืออ “วันไวท์เดย์” นั่นเอง! เนื่องในวันพิเศษแบบนี้ เคพีจึงถือโอกาสนำสาระน่ารู้เกี่ยวกับวันไวท์เดย์มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเล้ยย 💝


เรามาเริ่มกันที่การเล่าประวัติคร่าว ๆ กันก่อนเลยดีกว่า! หากจะให้พูดถึงจุดกำเนิดของวันไวท์เดย์แล้วนั้น ไอเดียแรกเริ่มมาจากแผนการตลาดของบริษัท Ishimura Manseido ที่ต้องการจะขายขนมอย่างมาร์ชแมลโลว์ให้เป็นของตอบแทนสำหรับช็อกโกแลตที่ได้รับตอนวันวาเลนไทน์ ในวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1977 ถึงขนาดเรียกวันนี้ว่า “วันมาร์ชแมลโลว์” เลยทีเดียว แต่ทว่าไม่ได้รับความนิยมมากนัก ต่อมาองค์กรอุตสาหกรรมขนมหวานของประเทศญี่ปุ่นจึงนำมาต่อยอด จนในปี 1978 ได้เกิด “วันไวท์เดย์” ขึ้นมาครั้งแรก ซึ่งการเลือกสีขาวมาเป็นชื่อของวันนี้เพราะเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ หรือบางที่ก็บอกว่าเป็นสีขาวจากมาร์ชแมลโลว์นั่นเอง🤍


ทำอะไรบ้าง?

ในวันไวท์เดย์ก็จะมีกิจกรรมที่คล้ายกับวันวาเลนไทน์เลย ต่างกันที่ผู้ให้จะเปลี่ยนจากฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายชายแทน ผู้ชายที่ได้รับของขวัญวันวาเลนไทน์ไปจะให้ของตอบแทนกับคนที่ให้ของขวัญมา แล้วของขวัญชิ้นนั้นต้องเป็นของที่มีราคามากกว่า 3 เท่าจากของที่ได้รับด้วยนะ! ซึ่งการให้ของขวัญคืนในวันไวท์เดย์เนี่ยจะถือเป็นการให้คำตอบของคำสารภาพรักเลยล่ะ แถมผู้รับเองก็จะรู้สิ่งที่ผู้ให้จะสื่อผ่านทางขนมได้ด้วย เพราะในขนมแต่ละชนิดมีความหมายแฝงอยู่ โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 3 อย่างด้วยกัน


1. ลูกอม 🍬

สาว ๆ ที่ตั้งตารอวันไวท์เดย์ส่วนใหญ่เนี่ย มักจะคาดหวังว่าจะได้ลูกอมกัน เพราะว่าการให้ลูกอมนั้นหมายถึง “ฉันชอบคุณ” นั่นเอง เห็นว่าเหตุผลที่ลูกอมได้เป็นตัวแทนของการบอกรักเนี่ย มาจากการที่ต่อให้กินเข้าไปแล้วก็จะไม่ละลายไปทันที ก็เลยทำมีความนัยสื่อว่า “ความสัมพันธ์ที่ยืดยาวไปเรื่อย ๆ” แถมความแข็งของลูกอมก็สื่อถึง “สายสัมพันธ์ที่ไม่พังลงง่าย ๆ” และท้ายสุดความหวานของลูกอมหมายถึง “ความสัมพันธ์ที่หวานชื่น” พอเอาความหมายมารวม ๆ กันแล้วลูกอมนี่เหมาะกับตำแหน่งของขวัญที่จะให้เพื่อเริ่มความสัมพันธ์ใหม่จริง ๆ นั่นแหละ!


2. คุกกี้ 🍪

ขนมอย่างแรกเป็นการรับรักไปแล้ว มาดูต่อที่ขนมอย่างที่สองกันบ้างดีกว่า สาว ๆ ที่ได้รับคุกกี้กลับมาเนี่ยอาจจะยิ้มแห้งหน่อย ๆ ล่ะ เพราะความหมายแฝงของคุกกี้ก็คือ “อยากเป็นเพื่อนกับคุณต่อไป” นั่นเอง ส่วนเหตุผลที่คุกกี้เป็นตัวแทนความหมายนี้เพราะว่า ส่วนใหญ่แล้วคนมักจะชอบซื้อคุกกี้ให้กัน คุกกี้ก็เลยกลายมาเป็นเครื่องหมายของเฟรนด์โซนไปโดยปริยาย


3. มาร์ชแมลโลว์💗

มาถึงขนมอย่างสุดท้าย อันนี้อาจจะมีการร้องไห้กันเกิดขึ้นก็เป็นได้ การที่ได้มาร์ชแมลโลว์มาในวันไวท์เดย์หมายถึง “ฉันไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของคุณได้” เพราะมาร์ชแมลโลว์เป็นขนมที่ตรงกันข้ามกับลูกอมที่กินเข้าไปแล้วจะละลายทันที และทำให้สื่อได้ถึง “ความสัมพันธ์ที่ไม่ยืดยาว” หรือ “อยากลืมให้ได้เร็ว ๆ” อีกด้วย แต่เพราะอิมเมจความนุ่มนิ่มของตัวขนม การปฏิเสธรักด้วยวิธีนี้ก็จะดูเป็นการปฏิเสธที่นุ่มนวลมาก ๆ เลย เพราะฉะนั้นหนุ่ม ๆ ที่กำลังเลือกขนมให้สาวที่ชอบในวันไวท์เดย์ อย่าเผลอซื้อมาร์ชแมลโลว์เชียวนะ!


แฮปปี้ไวท์เดย์น้าทุกคน~ 🥰🍭 เป็นยังไงกันบ้าง? สำหรับสาระน่ารู้เกี่ยวกับวันไวท์เดย์ที่เราได้นำมาฝากกันในสัปดาห์นี้ หวังว่าเพื่อน ๆ จะเลือกขนมที่ใช้มอบสำหรับการตอบกลับคำสารภาพรักได้อย่างตรงใจทุกคนกันนะ! วันนี้เคพีขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เราจะกลับมาเจอกันในหัวข้อไหน รอลุ้นกันได้เลยย บ๊ายบายย ✨


แหล่งอ้างอิง

ข้อมูล:

  • https://dime.jp/genre/844196/#:~:text=%E3%83%9B%E3%83%AF%E3%82%A4%E3%83%88%E3%83%87%E3%83%BC%E3%81%8C%E5%A7%8B%E3%81%BE%E3%81%A3%E3%81%9F%E9%A0%83,%E3%82%89%E3%82%8C%E3%81%A6%E3%81%84%E3%81%9F%E3%81%9D%E3%81%86%E3%81%A7%E3%81%99%E3%80%82

  • https://www.loveyouflower.com/white-day/

  • https://thestandard.co/onthisday1403/

  • https://www.eflora.co.jp/f_whiteday/colum/about_wt/

ภาพประกอบ:

😻KP Learning Space | KP Trainee

💛Explore the Artist in you.

48 views0 comments
bottom of page